เครื่องกรองน้ำ คือ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกำจัดสิ่งสกปรก สารละลายบางชนิด สารเคมีต่างๆ
ที่ปนเปื้อนมากับน้ำ ทำให้น้ำสะอาด และเหมาะสมต่อการนำมาบริโภค ส่วนมากเครื่องกรองน้ำดื่ม ที่นิยมใช้กัน คือ เครื่องกรองน้ำ 5 ขั้นตอน และ 6 ขั้นตอน ซึ่งมีแบบระบบธรรมดา และ ระบบ RO.
ระบบการกรองน้ำของ เครื่องกรองน้ำ 5 ขั้นตอน และ 6
ขั้นตอน
ขั้นตอน 1 ไส้กรองหยาบ Sediment ( PP
) ใช้ในการกรอง
สิ่งสกปรกที่ปนมากับน้ำ เช่น ตะไคร่ และฝุ่นละอองต่างๆ
ขั้นตอน 2
ไส้กรองคาร์บอนบล็อค ( Carbon Block) ทำหน้าที่ ดูดจับสารเคมี คลอรีน และปรับค่าความเป็นกรดหรือด่าง
ให้เหมาะสม
ขั้นตอน 3 ไส้กรอง
เรซิ่น ( Resin ) ทำหน้าที่ในการดูดสารละลายจำพวกหินปูน
เช่น แคลเซียมและแมกนีเซียม แล้วปล่อยประจุที่เป็นโซเดียมลงสู่น้ำ
ทำให้น้ำลดความกระด้างลงได้
ขั้นตอน 4
ไส้กรองคาร์บอนเกล็ด( Inline GAC) ขนาด 12 นิ้ว มีประสิทธิภาพในการกำจัด กลิ่น สี
และรสที่ไม่พึงประสงค์ และทำให้น้ำมีรสชาดดีขึ้น
ขั้นตอน 5 ไส้กรองคาร์บอนผง( Inline Post
Carbon) ขนาด 10 นิ้ว เป็นขั้นสุดท้าย
ช่วยกรองคลอรีนและสารเคมีที่เป็นพิษต่อร่างกาย ทำให้ได้น้ำที่สะอาดพร้อมดื่ม
หมายเหตุ การแปลงเครื่องกรองน้ำ 5 ข้ั้นตอน เป็น 6 ขั้นตอน สามารถทำได้โดยการนำไส้กรองที่ต้องการเพิ่มเติม เข้ามาติดแทนในขั้นตอนที่ 4 แล้วก็ขยับไส้กรองในขั้นตอนที่ 4 ขึ้นไป เป็นชั้นๆของการกรอง
ไส้กรองน้ำที่นิยมติดเพิ่มเติม คือ
1. ไส้กรองยูเอฟ ความละเอียดในการกรอง 0.01 ไมครอน
2. ไส้กรองเซรามิค ความละเอียดในการกรอง 0.3 ถึง 0.9 ไมครอน
3. ไส้กรองนาโน ความละเอียดในการกรอง 0.001 ไมครอน
ประสิทธิภาพในการกรองจะแตกต่างกันออกไป
ขึ้นอยู่กับคุณภาพของไส้กรองและความละเอียดของไส้กรองชนิดนั้นๆ และที่สำคัญก็คือ
แหล่งของต้นน้ำว่าเป็นน้ำประปาหรือน้ำบาดาล
ดังนั้น จึงควรเลือกเครื่องกรองน้ำ 5 ขั้นตอน และ 6 ขั้นตอน ให้เหมาะสมกับสภาพน้ำนั้นๆด้วย เพื่อให้เครื่องกรองน้ำ 5 ขั้นตอน และ 6 ขั้นตอน ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำให้ตรงตามกำหนดระยะเวลาด้วยนะครับ